Chapter6 : มาสวยใส..กระปรี้กระเปร่า..แบบไร้เครียดกันเถอะ!

               หากยังพอมีเวลาเหลืออาจบริหารต้นขา และหน้าท้องอีกสักหน่อย ด้วยการนอนตะแคง ยกขาด้านบนทำมุม 45องศา กดนิ้วหัวแม่เท้าให้ชี้ลงพื้น ยกขาขึ้นลงช้า ๆ 10ครั้ง เปลี่ยนตะแคงอีกด้าน เพื่อให้ขาอีกข้างบริหารอย่างเดียวกัน อีก 10 ครั้ง เสร็จเรียบร้อยก็อาบน้ำ แต่งตัว ไปทำงานได้แล้วค่ะ
                แค่นี้ร่างกายก็สดใสพร้อมรับวันใหม่ และยังทำให้หุ่นดีอีกด้วยนะคะ

               แสงสว่างคลายเครียด
          สำหรับใครที่กำลังเครียด ไม่ว่าจะเป็นเครียดเล็ก เครียดน้อย หรือเครียดหนัก ลองใช้วิธีนี้ซิ
อาจได้ผล
               Norman E.Rosenthal แห่งโรงเรียนแพทย์จอร์จทาว์น ในวอชิงตัน ดี.ซี ได้ทำการวิจัยพบว่า
"แสงสว่างจะช่วยคลายเครียดได้ดี" โดยเมื่อแสงเข้าสู่ดวงตา จะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมี 'Sertonin' ทำให้ร่างกายคลายเครียด และมีอารมณ์สงบลง
               ดังนั้น สิ่งที่ควรทำ คือ เปิดม่านห้องทำงานหรือเปิดม่านในบ้านให้ห้องสว่างขึ้น หมั่นล้าง และขัดถูหน้าต่างให้ใสสะอาด ให้แสงเข้าได้มากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนหลอดไฟในห้องให้สว่างขึ้น หากเครียดจัดๆ จะออกไปเดินเล่นชมสวนนอกบ้าน หรือสำนักงานบ้าง สัก 10นาที คงไม่มีใครว่าหรอกน่ะ

                เครียดจ๋า...ล่าก่อน
           โรคเครียดเป็นโรคที่คนทำงานมักต้องเผชิญอยู่เสมอ ถ้าคุณเป็นอีกคน ที่เครียดเป็นประจำ เครียดได้แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต้องรีบเปลี่ยนแปลงตัวเองล่ะค่ะ
                 คนมักพูดกันเสมอว่า "วิธีแก้ความเครียดคือ การคิดในเชิงบวก" (Positive thinking) พูดง่ายๆคือ ไม่ว่าใครจะทำอะไร ต้องคิดในทางดีไว้เลยค่ะ โดยเฉพาะคนบางคนที่มองโลกเป็นสีเทา เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจจะหดหู่ได้ง่าย ต้องพยายามเปลี่ยนเลนส์ในการมองโลกให้เป็นสีเขียว หรือสีชมพู ถึงจะดี อันนี้เป็นการแก้ที่ต้นตอ
                  แต่เชื่อไหม? การจะเปลี่ยนทัศนคติไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้เวลามาก บางคนค้นหาวิธีการมาค่อนชีวิตก็ยังไม่พบสัจธรรม
                  ดังนั้น ในระหว่างที่แก้ที่ต้นเหตุยังไม่ได้ เราควรแก้ที่ปลายเหตุไปพร้อมๆ กันน่าจะดี คือ เมื่อเกิดความเครียดขึ้น ต้องพยายามกำจัดความเครียดออกไปให้เร็วที่สุด อย่าสะสมความเครียดเป็นงาน อดิเรก! อันนี้อันตราย เพราะอาจทำให้คุณแย่ลงทั้งทางกายและจิตใจวิธีแก้ความเครียดที่เป็นสูตรสำเร็จ คือ การออกกำลังกาย การหางานอดิเรกที่ชอบทำ แต่การคลายเครียดยังมีอีกหลายวิธี และต่อไปนี่เป็นอีกทางเลือก ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ ลองดูนะ

- การออกไปสูดอากาศกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่มีแสงสว่างมากหน่อย
- การเป็นผู้ให้ มีงานวิจัยที่เมืองนอกค้นพบว่าการที่คนเรารู้จักให้เวลากับคนอื่นบ้าง จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น มีความเศร้า และความวิตกน้อยลง โดยคุณไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วมองค์กรการกุศลที่ไหนหรอก ให้เวลาของคุณกับเพื่อนร่วมงาน กับครอบครัว แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ
- การนวดเบาๆ สักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะช่วยคลายเครียดได้เพราะทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติโซล ซึ่งทำให้เกิดความเครียดลดลง แล้วไม่ต้องไปหาคนนวดที่ไหนหรอกค่ะ เอาคนใกล้ๆตัวนี่แหละ ผลัดกันนวดสักคนละ 10 นาที จะไปหาคู่มือการนวดมาประกอบด้วย ก็ไม่เลวนะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ การนอกน้อยเกินไป เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียดได้ ดังนั้น คุณจึงควรนอนให้ได้อย่างน้อยสักวันละ 7-8 ชั่วโมง เข้านอนให้เร็วขึ้นอีกนิด แล้วคุณจะพบว่า...โลกสดใสขึ้นกว่าเดิมนะ
- แคลเซียม ถ้าความเครียดของคุณเกิดขึ้นอย่างเป็นวงจรเช่น 1 สัปดาห์ก่อนมีรอบเดือน อาจเป็นไปได้ที่ภาวะขาดแคลเซียมจะเป็นตัวการของความเครียด ลองทานอาหารที่มีแคลเซียมมากขึ้น เช่น ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง นม ฯลฯ อาจทำให้อาการดีขึ้นค่ะ
- ช็อกโกแลต ระหว่างงานหากเครียดจัดๆ ลองทานช็อกโกแลตซิคะ จะช่วยคลายเครียดได้ค่ะ เพราะช็อกโกแลตจะกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนเซอร์โทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยด้านความเครียด
- ผัก และผลไม้ช่วยได้ ในผักสีเขียวมีโฟเลต ช่วยบำรุงระบบประสาท การขาดโฟเลตจึงอาจนำมาซึ่งความเศร้าซึม เพราะ ฉะนั้น ทานผักและผลไม้เป็นนิจ จิตจะแจ่มใสค่ะ

                   มาบำรุงสมองกันเถอะ
             ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนชรา ล้วนแต่ต้องใช้งานสมอง สำหรับเด็กต้องบำรุงสมองให้เร่งสร้างเซลล์ประสาท เด็กจะได้ฉลาด สำหรับผู้ใหญ่ต้องใช้สมองหนักในการทำงาน เพราะฉะนั้น ให้อาหารสมองเยอะหน่อยเป็นดี สำหรับคนชรา ช่วงนี้สมองเริ่มเสื่อม เพราะใช้งานมานาน ก็จำเป็นต้องบำรุงอีกเช่นกัน ไม่งั้นโรคหลงลืมจะถามหา
                     เห็นไหมว่า ไม่ว่าวัยไหน ล้วนแต่ต้องการอาหารสมองทั้งนั้นเพราะไม่มีสมอง เราก็อยู่ไม่ได้...เพราะฉะนั้น มาหาอาหารให้สมองกันดีกว่า
                      "อาหารสมองที่ดีเลิศ" คือ วิตามินบี โดยวิตามินบีจะช่วยบำรุงระบบประสาท ก็ในสมองน่ะ ประกอบด้วยเซลล์ประสาทถึง 1 แสนล้านเซลล์ทีเดียว และเป็นเซลล์ที่ต้องทำงานหนักมาก เกือบตลอดเวลา ทั้งควบคุมการทำงานของร่างกาย ทั้งคิด ทั้งจำ ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารดีๆ ให้กับสมองมากหน่อย
                     แต่ปัจจุบัน อาหารที่เราทานถูกทั้งขัดสี ผ่านกระบวนการปรุงถนอมอาหาร ฉายรังสี บรรจุกระป๋องแช่เย็น พาสเจอร์ไรซ์ สเตอริไรซ์ สารเคมี จนทำให้วิตามินบีตกหล่นสูญหายระหว่างทางไปเสียหมด
                     หากอยากให้ร่างกายได้รับวิตามินแบบครบถ้วนนะเหรอ ไม่ยากเลย ต้อง "ทานข้าวซ้อมมือ ถั่วต่างๆ ทานผักสีเขียวเข้มสุดๆ" เพราะการเก็บผักไว้นานๆแสงจะทำให้วิตามินบีค่อยๆ สูญสลายไป ถ้าเป็นผลไม้ต้องไม่พยายามปอกเปลือก เอาแค่ล้างให้สะอาดก็พอ
                      แค่นี้สมองก็ปลอดโปร่งแจ่มใส กระปรี้กระเปร่าจนใครๆ ค่างหันมามอง

                       นอนหลับเถิดชาวไทย
                ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ มนุษย์เราห่วงใยสุขภาพมากขึ้น หลายคนจึงใส่ใจในเรื่องอาหารมากขึ้น รวมถึงการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จะได้มีแรงต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ที่ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นทุกขณะ แต่หลายๆคน ยังละเลยที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ หรือ พยายามนอนหลับให้สนิท ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พอๆกับเรื่องอาหาร และการออกกำลังกายทีเดียว
                         ลองพยายามใช้เทคนิคต่อไปนี้สัก 1 อาทิตย์ซิ แล้วคุณจะพบว่าคุณจะสดชื้นขึ้น และมีพลังเพิ่มขึ้นอีกโข...ลองดูนะ

1.จงทำให้ 2-3 ชั่วโมงก่อนการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย เช่น ดูทีวีเรื่องเบาสมอง อาบน้ำอุ่น พร้อมกับฟังเพลงเบาๆ อ่านหนังสือชวนหัว เป็นต้น
2.พยายามนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและละลายความเครียด
4.พยายามเข้านอน และตื่นนอนให้เป็นเวลา ทุกวัน
5.หากคุณเป็นคนนอนยาก ให้ลองดื่มนมอุ่นๆ หรือกล้วยสัก 1 ผล หลังอาหารเย็นสัก 1-2 ชั่วโมง จะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

                       นวด...คลายเครียดกันดีกว่า

                 "มาแก้เครียดด้วยการลอยความเครียดลงน้ำไปดีกว่า..." เพราะเมื่อเราเครียด ทุกส่วนของศีรษะจะตึงเปรี๊ยะไปหมด ถ้าขืนปล่อยไว้นานๆจะพาลปวดหัวเอา
                          "การนวดศีรษะคลายเครียด"
                            เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อคลายเครียด เพราะการนวดจะช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น จึงช่วยคลายความเครียด อีกทั้งยังทำใหสภาพผมดีขึ้นด้วย
                            กรรมวิธีคือ หลังจากสระผมเสร็จ ให้ชโลมครีมนวดผม หรือหากผมแห้งมากๆ จะใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกก็ได้ ลูกศีรษะเบาๆ ลากมือจากหน้าผากเรื่อยไป จนถึงคอด้านหลัง และจากขมับเหนือหูทั้งสองข้างไปสุดที่คอ
                            จากนั้นใช้นิ้ว 4 นิ้วนวดเป็นวงกลมให้ทั่วศีรษะ โดยเน้นที่รอบๆใบหู และต้นคอเป็นพิเศษเพราะกล้ามเนื้อส่วนนี้จะตึงมากเวลาเครียด การนวดเบาๆจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี
                             เสร็จแล้วค่อยๆ ใช้นิ้วสางผมเบาๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอจนทั่วศีรษะ
                             สุดท้ายกดนิ้วไว้ที่ขมับเหนือหูทั้งสองข้างคลึงนิ้วเบาๆ สัก2-3วินาที จากนั้นกดนิ้วแล้วลากขึ้นไปข้างบน จนสุดศีรษะ ทำซ้ำข้างละ 3-4 ครั้ง แล้วล้างน้ำ ก็เสร็จขั้นตอน
                             จะได้ทั้งผมสะอาด ผมสวย และคลายความเครียด 3 in 1 เชียวนะ
                              เป็นอย่างไรบ้างคะ? ฝึกนวดกันไปถึงไหนแล้ว คงจะคล่องกันแล้วนะคะ ว่าแล้ว มาต่อกันกับ 'การนวดร่างกายเพื่อคลายเครียด' อีก 5 วิธีที่เหลือค่ะ
                              เริ่มจาก "การนวดพื้นฐาน 5 แบบ" โดยในการนวด อาจใช้น้ำมันหอมระเหยช่วย เพื่อให้ผิวหนังลื่นขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าจะช่วยคลายเครียดได้ดี กลิ่นที่นิยมใช้กัน คือ ลาเวนเดอร์ เลมอน เจอเรเนียม มะลิ เปปเปอร์มิ้น ฯลฯ

                            1.Effieirage ชื่อแปลกประหลาดนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า 'สัมผัสเบาๆ' ซึ่งทำให้เห็นภาพของการนวดท่านี้ได้พอควรนะคะ.
                            ท่านวดท่าที่เหมาะสำหรับการเริ่ม และจบการนวดเหมือน Warm up Warm down นั่นแหละค่ะ เริ่มจากการวางฝ่ามือตามยาว ให้นิ้วมืออยู่ชิดกัน ยกปลายเล็บขึ้นเล็กน้อย (จะได้ไม่จิกลงไปบนผัวหนังคนถูกนวด) แล้วค่อยกดเบาๆ พร้อมกับเคลื่อนมือไปในทิศทางที่หัวใจตั้งอยู่
                             2.Petrissage เป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศสเช่นกัน แปลว่า 'การนวด' ท่านี้เหมาะกับการนวดกล้ามเนื้อที่เกร็ง และมีกระดูกอยู่ใกล้ผิวหนัง เช่น หน้าแข้ง เป็นต้น การนวดเริ่มจากการใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างบีบกล้ามเนื้อ โดยให้กระดูกบางส่วนอยู่ข้างใต้ ค่อยๆ หมุนเป็นวงกลม ไปตามกล้ามเนื้อ
                            3.Kneading ท่านี้เหมาะกับกล้ามเนื้อที่มีไขมันมาก เช่น สะโพก ต้นขา เริ่มจากการยกกล้ามเนื้อขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง บีบเบาๆแล้วส่งต่อให้กับมืออีกข้างหนึ่ง ยกกล้ามเนื้อขึ้นเบาๆ แล้วส่งต่อให้มืออีกข้างหนึ่ง ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อยๆ และค่อยๆ เคลื่อนมือไปตามกล้ามเนื้อในทิศทางที่หัวใจตั้งอยู่
                            4.Percussion ชื่อท่าเป็นภาษาฝรั่งไปอย่างนั้นแหละ พอบอกแล้วจะร้องอ๋อ! การนวดท่านี้ เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อ ใช้ได้กับกล้ามเนื้อทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่มีไขมันมากหน่อย เช่น สะโพก ต้นขา เป็นต้น
                            เริ่มจากการใช้สันมือสับไปบนกล้ามเนื้อเบาๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ โดยให้ส่วนโค้งของฝ่ามือสัมผัสกับกล้ามเนื้อ ทำไปจนทั่วตัว คุณจะสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ
                            5.Friction เป็นท่านวดที่เหมาะกับการกระตุ้นให้เลือดลมเดินได้สะดวกขึ้น
                            เริ่มจากการใช้ฝ่ามือถูเร็วๆ ไปตามกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดความร้อนจากการเสียดทาน และทำต่อเนื่องไปจนทั่วตัวตามต้องการ คุณจะผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
                           จากท่านวดพื้นฐานแล้ว มีคำแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยค่ะ คือ คุณอาจจะใช้เวลาระหว่างอาบน้ำนวดตัวเอง โดยใช้สบู่ช่วยให้กล้ามเนื้อลื่นขึ้น หรืออาจใช้น้ำอุ่น โดยเปิดให้เป็นสายเล็กๆ หมุ่นเป็นวงๆ ไปทั่วตัว จะทำให้การอาบน้ำผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

                            คลายเครียดแบบพิสดาร
                   ปัจจุบันนี้ ความเครียดเกิดง่ายค่ะ เพราะทุกอย่างรอบตัวที่บีบรัดไปหมด และในยามที่เกิดความเครียดสะสม หลายคนไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไร เรื่องนี้นักจิตวิทยาบอกว่า ควรจะแก้โดยการเลิกคิด เลิกกังวลกับสิ่งนั้น แล้วทำตนให้ผ่อนคลาย โดย  "หันมาใช้ชีวิต ที่แปลกออกไปจากที่เคยเป็น" 
                             จงอย่าเกรงกลัวกับการ "ลองงานอดิเรกใหม่ๆ" เช่น หัดขี่ม้า ทำสวน เล่นโยคะ หัดดำน้ำ ฯลฯ  เพราะงานอดิเรกจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย แต่มีหลายคนทีเดียว ที่กลับรู้สึกผิดขณะที่กำลังผ่อนคลายด้วยสารพัดเหตุผล เช่น รู้สึกกังวลว่า ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไปหรือเปล่า ทำอะไรไร้สาระหรือเปล่า........
                             จงอย่ากังวล เชื่อเถอะว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ถูก เพราะการผ่อนคลาย จะนำคุณไปสู่การมีสุขภาพกาย และใจที่แข็งแรง
                              เมื่อรู้สึกผ่อนคลายดีแล้ว จงใช้ปัญญาหรับความคิดให้มองตัวเองและโลกในทางที่ดีขึ้น จะทำให้ความเครียดของคุณลดน้อยลง

                              แก้เครียดด้วยช็อกโกแลต



                    สำหรับคนชอบช็อกโกแลต ช่วงนี้ต้องเป็นข่าวดีมากๆเลย นะค่ะ เพราะมีการค้นพบว่า "ช็อกโกแลตช่วยลดความเครียด" ได้ค่ะ เนื่องจากในช็อกโกแลตอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายอย่าง เช่น วิตามินบี แมกนีเซียม เหล็ก ฯลฯ โดยสารพวกนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารเอนโดฟิน ซึ่งเป็นมอร์ฟีนตามธรรมชาติ ที่จะช่วยต้านความเครียด สำหรับผู้ที่มีความเครียดสูง อาจทานช็อกโกแลตได้ถึง 200-300 กรัมต่อสัปดาห์ (ถ้ากลัวอ้วน ก็ต้องไปลดน้ำตาลและไขมันจากอาหารอื่นค่ะ)
                              นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นที่พบว่าหากเกิดความเครียดขึ้นเมือใด ลองหาของขบเคี้ยวๆ จะช่วยคลายเครียดได้ค่ะ (ไม่รู้ว่า ต้องจินตนาการด้วยหรือเปล่าว่าเจ้าของขบเคี้ยวนั้นเป็นหน้าศัตรูคู่อาฆาต) แต่กว่าจะหายเครียดสงสัยโรคอ้วนจะมาเยือนซะก่อนนะซิคะ........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น