Chapter4 : ผิวพรรณเปล่งปลั่ง...สดใส ไร้ริ้วรอย

                - ชาเขียว 1/2 ถ้วย
                - ข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วย

                กรรมวิธี คือ ผสมชาเขียวกับข้าวโอ๊ตเข้าด้วยกัน ใช้ผ้าขาวบางห่อ มัดด้วยเชือก หรือริบบิ้น เปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง แช่ผ้าขาวบางข้างต้นลงไป แล้วก็คว้าหนังสือ ฟองน้ำถูตัว ลงไปนอนแช่ 15 นาที อ่านหนังสือให้สบายใจสักพัก ให้ใช้ฟองน้ำตามปกติ เสร็จแล้วอย่าลืมชโลมโลชั้นบำรุงผิวด้วยค่ะ
                 หลังจากแช่ชาเขียวแล้ว คุณอาจจะจิบชาเขียวตามอีกเล็กน้อย (คนละชาเขียวกับที่ใช้แช่ตัวแล้วนะ!) เพราะในชาเขียวมี Polyphenols และ Catechins ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยต่อต้านการแก่ก่อนวัยและต่อต้านมะเร็ง " ดีขนาดนี้ ต้องทั้งดื่ม ทั้งแช่ค่ะ ถึงจะครบสูตร " เพื่อผิวสวยสดใส

                ดื่มน้ำผลไม้...บำรุงผิวพรรณให้เนียนสวย
            ผิวสวยใสใครๆก็อยากมี ก็เลยมีเคล็ดลับมาบอกค่ะ ด้วย สูตร Baby Face เริ่มจากการเตรียมของต่อไปนี้ก่อนค่ะ...


                  - แอปเปิ้ลเขียว 1 ลูก
                  - แครอทขนาดกลาง 1/2 หัว
                  - เนื้อส้มซันคิสต์ 1 ลูก
                  - สตรอว์เบอร์รี 8 ผล
                  - น้ำมะม่วง
                  - น้ำส้มเขียวหวาน (คั้นสดๆ)
                  - มะนาว 1 ซีก

                   แล้วก็นำส่วนผสมนี้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เข้าเครื่องปั่นให้เข้ากัน กรองเอากากออก ชอบหวานก็เติม

น้ำผึ้งนิดหน่อย เหยาะเกลืออีกนิดแล้วก็หม่ำๆ ทำอย่างนี้ทุกวัน ผิวจะสวยใส ดูอ่อนกว่าวัยเลยเชียวแหละ

                    ใส่ใจอาหาร...ก็สวยตามธรรมชาติได้

             ผิวพรรณถือเป็นด่านแรกของความงามเลยนะคะ แน่นอนใครก็อยากมีผิวพรรณสดใสเต่งตึง 
เชื่อไหม? ว่าหากใส่ใจอาหารสักหน่อย เราก็สามารถสวยธรรมชาติกันได้ค่ะ
                       สำหรับคุณที่มี " ผิวตกสะเก็ด " สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด หรือใช้เครื่องสำอาง
มากเกินไป
                       แก้ไขด้วยการดื่มน้ำสะอาดมากๆและลดการใช้เครื่องสำอางลง หรือเปลี่ยนมาใช้
ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนลง
                       แต่ถ้าคุณ  " ผิวแห้ง " ให้ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำแร่ก็ได้วันละประมาณ 1 ลิตร และทานอาหาร
ประเภท แครอท เห็ด กระหล่ำปลี และผักคะน้า และถ้าเกิดหิวระหว่ามือขึ้นมาให้ทานถั่ว หรือ ลูกเกดค่ะ
                       สำหรับคุณที่ผิวมัน ควรงดอาหารที่มีไขมันสูง เช่นอาหารขยะทั้งหลาย แล้วเปลี่ยนมาทาน
อาหารจำพวกผักและผลไม้แทน พร้อมกับดื่มน้ำมากๆค่ะ

                       เมื่ออาบแดดจนผิวเกรียม

                         ยามเมื่อไปทะเล " เผลอนอนอาบแดดแป๊บเดียว ผิวก็เกรียมเสียแล้ว จะทำยังไงดีน้าาา "
ทั้งกลัวไม่สวย และปวดแสบปวดร้อนไปหมด ดีไม่ดี อาจเกิดอาการลอกเหมือนงูลอกคราบ ดูน่าเกลียดเชียว...
วิธีหนึ่งที่จะช่วยเบาเทาอาการดังว่า คือ ใช้ถุงชาที่เราใช้ดื่มนี่แหละ แช่ในน้ำร้อนให้แก่ที่สุด รอจนน้ำชาเย็นลง
จากนั้นก็ใช้ถุงชาประคบผิวที่เกรียมแดดจนทั่ว เปิดพัดลมให้ลมเป่าผิวที่ชื้นด้วยน้ำชาจนแห้ง เสร็จแล้วก็อาบน้ำ
เย็นธรรมดา โดยไม่ต้องใช้สบู่เลย
                          แต่ทางที่ดี เตรียมครีมกันแดดไปให้พร้อม เมื่อจะต้องไปผจญแดดที่ริมทะเล จะดีที่สุด 
แล้วอย่าลืมแว่นกันแดดด้วยนะ ไม่งั้นกาจะยกฝูงมาเยี่ยมไม่รู้ด้วยนะ.......

                         ผิวสวยด้วยน้ำ

               การดื่มน้ำเป็นประจำเป็นวิธีรักษาสุขภาพผิวทีดีที่สุด เพราะจะทำให้เซลล์ของผิวหนัง
ชุ่มชื่นไปด้วยโมเลกุลของน้ำ ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วต่อวัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ถ้า
อยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ก็ต้องทำให้ได้ค่ะ
                           เริ่มด้วยสร้างนิสัยการดื่มน้ำในชีวิตประจำวัน โดยเตรียมน้ำให้อยู่ใกล้ตัว ที่พร้อมจะหยิบ
ดื่มได้ทุกเมื่อ เช่น วางไว้ใกล้กับโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน ข้างเตียงนอน เป็นต้น เพราะนิสัยการดื่มน้ำโดย
เริ่มต้นจาก

                           - ตื่นนอนห้ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว

                           - ถึงที่ทำงาน ดื่มอีกแก้ว
                           - เวลาประมาณ 11 โมง แทนที่พักดื่มกาแฟ ก็เปลี่ยนเป็น
                             น้ำแร่ผสมกับน้ำส้มคั้น
                           - และดื่มน้ำอีกครั้งตอนประมาณ 4 โมงเย็น
                           - พอตกค่ำ กลับถึงบ้าน ก็จิบน้ำระหว่างดูทีวีไปด้วย
                           - สุดท้ายอีก 1 แก้วก่อนเข้านอน

                          เมื่อนับรวมแล้วตอนนี้คุณดื่มไป 6 แก้วแล้ว ซึ่งรวมกับน้ำที่ดื่มตอนอาหารกลางวัน

และอาหารค่ำ ก็จะเป็น 8 แก้ว พอดีนั่นไง! เข้าเป้าแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหม ที่จะเพาะนิสัยรักการดื่ม เพื่อ
ผิวสวย ๆ

                           อาบน้ำไม่ร้อน หรือเย็นเกินไป
                  ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า สิ่งแรกที่เรานึกถึง ก็คือการ "อาบน้ำ" บางคนอาจเลือกอาบน้ำเย็น บางคนเลือกอาบน้ำอุ่น แตกต่างกันไป แล้วแต่ความชอบ
                           อย่างไรก็ตาม น้ำที่อาบไม่ควรเย็นจัด หรือร้อนจัดจนเกินไปเพราะน้ำที่ร้อนเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง แตก และคัน ส่วนน้ำที่เย็นเกินไป อาจทำให้อันตรายต่อสุขภาพ แล้วอุณหภูมิน้ำแค่ไหนจึงจะพอดีสำหรับร่างกาย มาดูกันดีกว่าค่ะ
                           "น้ำร้อน" ที่จะใช้อาบ ควรมีอุณหภูมิระหว่าง 38-40°C การอาบน้ำที่อุณหภูมินี้ ควรใช้เวลา 10-15 นาที เท่านั้น การอาบน้ำที่อุณหภูมิขนาดนี้ จะช่วยลดพิษของร่างกาย เพิ่มอัตราการหายใจช่วยลดไข้ จึงเหมาะกับผู้ที่รู้สึกไม่สบายค่ะ
                           "น้ำอุ่น" มีอุณหภูมิระหว่าง 21-27°C การอาบน้ำที่อุณหภูมินี้จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย สงบ และสามารถอาบได้นานตั้งแต่ 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเดียว
                           "น้ำเย็น" คือ น้ำที่มีอุณหภูมิระหว่า 27-34°C ควรใช้เวลาอาบน้ำเย็นประมาณ 2-5 นาทีก็พอ ซึ่งการอาบน้ำที่อุณหภูมินี้จะช่วยลดความอ่อนล้าของร่างกาย และช่วยปรับสภาพผิวหนัง
                            เลือกอุณหภูมิน้ำที่จะอาบได้แล้ว ก็ต้องเลือกสบู่ให้เหมาะสมกับสภาพผิวด้วย ควรเลือกสบู่ที่เป็นกลาง หรือด่างอ่อนๆ โดยลองสังเกตุวาหลังจากอาบน้ำ รู้สึกสะอาดดี และผิวไม่แห้งจนเกินไปเป็นอันใช้ได้ และหากจะให้ดีควรใช้แปรงนุ่มๆ หรือใยบวบขัดตัวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ที่ตายออก ถ้าอยากให้เก๋ขึ้นไปอีก จะใช้มะขามเปียก เอาทั้งใยขัดตัว ก็จะได้ผิวขาวใสขึ้นค่ะ
                            เมื่ออาบน้ำเสร็จ ควรทาโลชั่นเพื่อให้ความชุ่มชื่นกับผิว วิธีเลือกโลชั่น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณ หากผิวแห้งมาก ควรเลือกโลชั่นที่มีเนื้อครีมมาก จะช่วยป้องกันความแตกแห้งได้ดีขึ้น แต่สำหรับผิวธรรมดา อาจเลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมากหน่อยจะได้ไม่รู้สึกเหนอะหนะจนรำคาญค่ะ

                           เคล็ดลับผิวพรรณอ่อนเยาว์
                คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากมีผิวพรรณอ่อนลง 20 ปี หรือเปล่า? ลองคิดดูซิว่า จะน่าปลื้มสักแค่ไหน? ถ้ามีคนทักว่าอายุ20ต้นๆ เฮ้อ! ฝันนี้จะมีโอกาสเป็นจริงมั้ยน้า..ตามมาดูกันเลยค่ะ
                            เคล็ดลับการมีผิวพรรณที่อ่อนเยาว์มีอยู่ 4 อย่าง คือ

- ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่เครียด
- ออกกำลังกาย
- รับประทานอาหารที่เหมาะสม

                            แค่นี้ล่ะคุณจะมีสุขภาพแข็งแรง รวมถึงผิวพรรณสดใส
                            ผักและผลไม้ ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน มีประโยชน์มากในการต่อต้านอนุมูบอิสระ ที่เป็นตัวการทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น
                            ลองสังเกตซิ ใครที่ชอบทานผัก และผลไม้เป็นประจำ ผิวพรรณจะสดใสเปล่งปลั่งทีเดียว ผักและผลไม้ ที่ขอแนะนำให้ทาน เช่น ส้ม มะเขือเทศ แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด แครอท กะหล่ำปี เป็นต้น
                            นอกจากนี้ อาหารว่างจำพวกเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวันมุสลีบาร์ ก็น่าสนค่ะ ทานเป็นประจำทุกๆวัน ผิวหนังคุณก็จะได้รับสารอาหารที่ต้องการครบถ้วน ทีนี่ล่ะ..ผิวพรรณอิ่มเอิบ ผ่องใส จะไปไหนซะ! 
                            นอกจากอาหารแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ต่างลงความเห็นว่า ไม่มีวิทยาศาสตร์แขนงใด ที่จะทำให้คุณอ่อนกว่าวัยได้ดีกว่าการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ การปีนเขา การถีบจักรยาน หรือแม้แต่การเดินเร็วๆ จะทำให้คุณรู้สึกคลายเครียด สดชื่นและแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น เนียนนุ่มขึ้นและเปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัย ด้วยวิธีธรรมชาติที่เรียบง่าย ด้วยตัวคุณเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น